‘ประยุทธ์’ เผย ‘ปวีณ’ กลับไทยได้ เผยฟ้องร้องได้แต่ระวังเจอฟ้องกลับ

‘ประยุทธ์’ เผย ‘ปวีณ’ กลับไทยได้ เผยฟ้องร้องได้แต่ระวังเจอฟ้องกลับ

ประยุทธ์ เผย ปวีณ กลับไทยได้ และกลับมาจะฟ้องร้องปลาใหญ่ก็ได้ เตือนถ้าให้การเท็จ ระวังเจอฟ้องร้องกลับ ย้ำบ้านเมืองมีขื่อมีแป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ออกมากล่าวถึง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าชุดสืบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ไม่ได้รับความเป็นธรรมและอยากจะกลับประเทศ

โดยนายกฯได้ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า คดีอะไร ก่อนจะระบุว่า ไ

ปร้องทุกข์ ไปร้องเข้าช่องทางมา ไม่ได้ให้เขาออกไปไม่ใช่หรือ เขาออกไปเองไม่ใช่หรือ ใครจะไปทำอะไรเขาได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมายอยู่ ถ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ทุกคนเวลาไปก็ไปเอง สมัครใจไปเอง เวลาจะกลับมาบอกไม่ปลอดภัย

บางคนก็ไปแล้วก็มีกฎหมายคาอยู่ แต่อยากจะกลับ มองตรงนี้สิ ตำรวจเขาชี้แจง แถลงแล้ว ตามซะบ้าง อย่าไปฟังเฉพาะช่องทางไหนช่องทางเดียว มันก็ขัดแย้งกันไม่เลิก ถ้าคิดว่าไม่มีอะไรก็กลับมา เขาไม่ได้มีคดีอะไรกับตนไม่ใช่หรือ ไม่ได้มีคดีอะไรกับใครไม่ใช่หรือ ไม่ตอบ ไม่เคยถามอะไรที่เป็นประโยชน์เลย

เมื่อถามว่า รับประกันหรือไม่ว่าใครก็ไม่เคยปกป้อง เพราะมีการพยายามสาวว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะปกป้องใคร พร้อมถามกลับถึงคนเบื้องหลังว่า ใคร ไม่เปิดชื่อใครก็พูดได้ สังคมก็ต้องคิดให้มีหลักมีเกณฑ์ จะทำอะไรต้องมีหลักฐาน หากกลับมาจะฟ้องร้องใครก็ฟ้องไป กระบวนการก็ตัดสินไป แต่ถ้าฟ้องแล้วไม่ใช่เขาก็ฟ้องกลับแค่นั้น เขาอยู่กันด้วยกฎหมาย ไม่ใช่อยู่ด้วยการพูดกันไปพูดกันมา แล้วก็มาขยายความอยู่แบบนี้

ธนกร ออกโรงซัด รังสิมันต์ โรม บิดเบือนข้อมูล หลังอภิปรายกรณี ค้ามนุษย์ และ โรฮีนจา ชี้อย่าทำประชาชนสับสน ยืนยันแก้ปัญหามากกว่ารัฐบาลชุดก่อน

นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปราย ปัญหาคอร์รัปชันจากเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะชาวโรฮีนจา ที่ถูกทรมานและโดนกระทำ ว่า

รัฐบาล ภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ตลอดจนภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังมาโดยตลอด

‘อนุทิน’ เซ็นปรับรักษา ‘โควิด’ ฟรีตามสิทธิ์ เริ่ม 1 มี.ค. ย้ำไม่ได้ยกเลิก UCEP

อนุทิน ให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า เซ็นปรับรักษา โควิด ฟรีตามสิทธิ์ เริ่ม 1 มี.ค. นี้ ย้ำไม่ได้ยกเลิก UCEP เผยหากติดเชื้อรุนแรงใช้สิทธิ์ฉุกเฉินได้ตามเดิม นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนได้ลงนาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่าด้วย เรื่องการกำหนดขั้นตอน มาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือ UCEP

มีจุดประสงค์ เพื่อให้เกิดการบริหารงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้สิทธิสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และจะมีผลบังคับใช้ 1 มี.ค.นี้ โดย คำจำกัดความคือโควิด-19 เป็นโรคติดต่อรุนแรง อยู่ภายใต้การคุ้มครองดูแลตามสิทธิหลักประสุขภาพของประชาชนแต่ละคน เราได้เริ่มประชาสัมพันธ์เรื่องนี้มาประมาณ 1 เดือนแล้ว ซึ่งย้ำว่า หากประชาชนที่มีอาการรุนแรง ทั้งจากโควิดและผู้ที่มีโรคร่วม ก็ยังใช้สิทธิฉุกเฉินได้ เรียกว่า UCEP Plus

“ไม่ได้ตัดสิทธิ ไม่ได้ยกเลิกยูเซ็ป ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงก็จะมี UCEP Plus ซึ่งมีขั้นตอนในทางปฏิบัติ ไม่มีปัญหาเรื่องการให้บริการ แต่หากไม่มีอาการ อาการน้อยแต่อยากเข้า รพ. โดยเฉพาะเอกชน ก็จะเหมือนโรคอื่น ที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง เราต้องปรับตามสถานการณ์ให้เป็นธรรมทั้งกับประชาชน และภาครัฐในเรื่องงบประมาณ” นายอนุทินกล่าว

นาย อนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับ UCEP Plus ไม่ได้ดูแลเฉพาะผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีโรคร่วม ผู้ที่มีอาการรุนแรงเพียงอย่างเดียว แต่หากผู้ติดเชื้อที่อยู่ในกลุ่มสีเขียว ที่อยู่ในระหว่างการรักษาที่บ้านและชุมชน (Home and Community Isolation) แล้วอาการเปลี่ยนแปลง มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น ก็สามารถใช้สิทธินี้ได้ เพื่อเข้ารักษาในภายเร่งด่วนฉุกเฉิน

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ให้ลงทะเบียนผ่านระบบ 1330 ทั้งสายด่วนและไลน์ @nhso ซึ่งตนได้ประสานให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพิ่มคู่สายรองรับแล้ว ส่วนผู้ที่ไม่สะดวกอยู่ที่พักอาศัยแบบ HI เราก็มี CI รองรับได้อยู่ โดย กทม.ยืนยันกับ สธ.ว่า HI/CI มีความพร้อม นอกจากนั้นยังมีเตียงสนามของภาคเอกชนด้วย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับเน้นย้ำมาตลอด ให้ทุกส่วนราชการช่วยเหลือและคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยไม่เลือกปฏิบัติในทุกเชื้อชาติเป็นการเร่งด่วน เพื่อร่วมคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้เหยื่อที่ได้รับการบังคับกดขี่ โดยเฉพาะการค้าประเวณี และการใช้ความรุนแรงที่ยังคงเหลืออยู่ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐหากเข้าไปมีส่วนร่วมกับการค้ามนุษย์จะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะมีตำแหน่งสูงแค่ไหนก็ตาม ห้ามละเว้นทุกกรณี

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป