นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รมว. สาธารณสุข ได้เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างเร่งให้บริการฉีดวัคซีนโควิด และดำเนินการด้านชุดตรวจ ATK ให้ทั่วถึงที่สุด วันนี้ (29 ก.ย. 2564) – นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำการเปิดเผยว่าในช่วงเวลานี้ กำลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยให้ทันกับการจัดหา พร้อมได้กำชับถึงการดำเนินการของชุดตรวจ ATK นั้นจะต้องเป็นไปอย่างทั่วถึงแก่ประชาชนทุกคน
โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ ณ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี
ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนการบริหารจัดการวัคซีคโควิด-19 ณ ปัจจุบันไว้ว่า ตามรายงานที่ได้รับ เดือนตุลาคม ไทยจะได้วัคซีนของไฟเซอร์ ของแอสตร้าเซนเนกา และยังมีของซิโนแวคด้วย เป็นเดือนที่มีวัคซีนมากพอสมควร ซึ่งสมควร ต้องให้บริการวัคซีนได้ทันกับที่จัดหาเข้ามา ทั้งนี้ ระบบของไทยสามารถฉีดได้ถึงวันละ 1 ล้านโดส ตัวอย่างเช่นความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันมหิดล สำหรับค่าเฉลี่ยการให้บริการตามปกติคือ 6 – 8 แสนโดส นับจากนี้ การให้บริการจะเน้นเชิงรุกมากขึ้น อาทิ การฉีดให้เด็ก ก็ต้องไปฉีดในโรงเรียน แต่ต้องเตรียมการให้พร้อม มีแพทย์ พยาบาล คอยแสตนด์บาย สำหรับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เป็นบูสเตอร์โดส จะทยอยฉีดให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม
นายอนุทิน กล่าวถึงความคืบหน้าการประกาศให้ขายชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท(ATK) ชนิดโฮมยูส(Home Use) นอกร้านขายยา ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กำลังเสนอขึ้นมาที่สำนักรัฐมนตรี อยู่ในระหว่างการพิจารณาของฝ่ายกฎหมาย ตามหลักการแล้วหากไม่มีอะไรขัดกฎระเบียบ ก็พร้อมลงนามทันที เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อมากขึ้น ส่วน ATK ที่นำมาขาย ต้องผ่านการรับรองจาก อย.แล้วเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนอยากซื้อในราคาถูกลง ทางองค์การเภสัชกรรม(อภ.) ได้เปิดประมูลชุดตรวจ ATK มาได้ เพื่อนำมาจำหน่ายประชาชน และต้องไม่หวังกำไร ภาพรวมคือ ประชาชนต้องมีทางเลือก และไม่ถูกเอาเปรียบ
ในวันนี้ ทั้งสองประเทศสามารถก้าวผ่านพ้นอดีต กลับมาสู่อนาคตที่สดใส โดยประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่านี่คือ “ชัยชนะ” สำหรับประชาชนทั้งสองประเทศ ที่รัฐบาลของทั้งคู่ได้ใช้ความพยายามและทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จนสำเร็จลุล่วงได้ในที่สุด และพร้อมก้าวย่างต่อไปอย่างมั่นคง ขยายจากความร่วมมือทวิภาคี “ไทย – ซาอุดีอาระเบีย” ไปสู่พหุภาคี “อาเซียน – คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ” (Gulf Cooperation Council : GCC)
โดยต่อจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินงานอย่างไม่ลดละ ที่จะนำเอาความสำเร็จจากการสานสัมพันธ์ในครั้งนี้ แปลงไปสู่นโยบายและการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตอีกมากมาย ซึ่งผมจะเร่งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เพื่อสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน และการฟื้นฟูประเทศหลังโควิดโดยเร็วที่สุด ซึ่งผมจะได้นำมาเรียนแจ้งพี่น้องในทันทีที่มีความคืบหน้าครับ”
เรียนตามตรงว่า ผมเองยังรู้สึกเรื่องนี้อาจมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านี้ที่ยังไม่รู้ เพราะดูมันปุบปับแบบแปลกๆ และจะว่าไปการพยายามแก้ไขเรื่องนี้ของฝ่ายไทยก็มีมาตลอด ที่บอกว่า นี่คือผลงานล้วนๆ ของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันนั้น ผมจึงไม่แน่ใจนัก โดยเฉพาะมาจากผู้ที่เคยพูดได้ถึงขนาดสหรัฐได้มาเตือนตนล่วงหน้าว่าจะโจมตีอิหร่าน จนเป็นที่อับอายขายขี้หน้าไปทั่วโลกมาแล้ว
ตร. ดำเนินคดี ป้าเป้า หลัง แก้ผ้า ในการชุมนุม #ม็อบ28กันยา
ปิยะ เผยเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ป้าเป้า หลัง แก้ผ้า ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจในการชุมนุม #ม็อบ28กันยา พร้อมคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ได้ออกมาแถลงถึงการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมาว่า ทางเจ้าหน้าที่ ได้ดำเนินคดีนางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้าข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกายหรือกระทำการลามกอย่างอื่น เปิดเผยร่างกาย
รวมไปถึงถูกดำเนินคดีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พร้อมทั้งการออกหมายเรียกมาชุมนุมเมื่อวานรวมถึงป้าเป้าภายในวันนี้
ซึ่ง พล.ต.ต.ปิยะยังได้กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้จับกุมผู้กระทำผิด 9 คน เยาวชน 2 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกแล้วไม่เลิกฯ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 28 ก.ย. ป้าเป้า ได้ถอดเสื้อผ้า ทั้งเสื้อและกระโปรง จนกระทั่งเปลือยทั้งร่าง ต่อหน้าแนวตำรวจ คฝ.
แล้วก็เห็นภาพนายกรัฐมนตรีไทยไปยืนยกมือไหว้ฝ่ายเขาแปลกๆ ทั้งที่เทียบระดับเขาต่ำกว่าก็อดขำขื่นๆ ไม่ได้.แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยินดีด้วยนะครับในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองนี้”
V-DEM หรือการทุจริตในภาครัฐ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และตุลาการ เกี่ยวกับสินบน การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับส่วนรวม มากน้อยเพียงใด ไทยได้คะแนนเพิ่มขึ้น 6 คะแนน โดยได้ 26 คะแนน หากเทียบกับปี 2563 ที่ได้เพียง 20 คะแนน
“นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2565
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป